กะลาตาเดียว และกะลาไม่มีตา หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า กะลามหาอุตม์ เป็นกะลาที่แปลกและหาได้ยากตามธรรมชาติเพราะกะลาทั่วๆ ไปจะต้องมี 2 ตาเสมอ กะลาตาเดียว ยังพอพบเห็นง่ายกว่า แต่ก็ไม่ทั่วไป ในจำนวนมะพร้าวหลายหมื่นลูก อาจจะพบ กะลาตาเดียว เพียงลูกเดียวเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่หากพบมะพร้าวต้นไหนเป็นกะลาตาเดียว ก็มักจะพบที่ต้นนั้นโดยตลอด และจะเป็นทั้งทะลาย และยิ่งมะพร้าวมหาอุดด้วยแล้ว ก็จะพบได้ยากกว่ามาก ดังนั้นทั้งกะลาตาเดียวและกะลามหาอุตม์ จึงถือว่าเป็นวัตถุอาถรรพณ์ที่มีดีอยู่ในตัว ในสมัยโบราณเชื่อว่า กะลาตาเดียว มีคุณวิเศษในตัว โดยไม่ต้องผ่านการปลุกเสกก็ได้ เพราะถือว่า เป็นวัตถุอาถรรพ์ นำโชค ป้องภัย ป้องกันเสนียดจัญไร และคุณไสยต่างๆ ได้แก่
1. การนำกะลาตาเดียว มาใช้เป็นเครื่องรางของขลัง มาแกะแล้วเจาะรูห้อยคอ สำหรับเป็นเครื่องรางป้องกันภัยต่างๆ ไม่ว่าจะป้องกันเสนียดจัญไร ป้องกันคุณไสย และมนต์ดำ รวมทั้งป้องกันภูตผีปีศาจ ขับไล่ภูตผีวิญญาณร้าย ที่เข้าสิง พร้อมทั้งใช้ล้างอาถรรพ์ต่างๆ ที่มีอยู่ในบ้าน เช่น ปลูกบ้านคร่อมตอ ทับของมีคมแรง หรือบ้านที่ตั้งอยู่กลางทางสามแพร่ง และอื่นๆ ที่เชื่อกันว่าจะส่งผลร้ายให้แก่ผู้ที่อยู่อาศัย ให้กลับมาเป็นดี
2. การมี กะลาตาเดียว ติดตัวตลอดเวลา จะทำให้ผู้นั้น ประสบกับความมีโชคลาภ
3. การนำกะลาตาเดียว ซึ่งเป็นวัตถุอาถรรพ์ ที่มีอำนาจพิเศษ ไปให้เกจิอาจารย์ผู้มีความรู้ความชำนาญทางวิชาคาถาอาคมต่างๆ ลงอักขระเลขยันต์พร้อมกับปลุกเสกให้ด้วย เพื่อเพิ่มอิทธิฤทธิ์ และความขลังยิ่งๆ ขึ้น
4. การใช้กะลามะพร้าวตักข้าวสารเวลาหุงข้าว ด้วยความเชื่อว่า จะทำให้มีข้าวกิน ตลอดไป ไม่มีอดอยาก มีความอุดมสมบูรณ์ ในเรื่องพืชพรรณธัญญาหารต่างๆ
5. คนที่เป็นข้าราชการ จะนำกะลาตาเดียวมาแขวนคอติดตัวเวลาไปทำงานด้วย เพื่อเป็นการเสริมดวง เพิ่มพูนความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ทางตำแหน่งหน้าที่การงาน ยศถาบรรดาศักดิ์ หนุนเนื่องความเป็นเจ้าคนนายคนอีกด้วย
6. พ่อค้าแม่ขายก็นิยมมีกะลาตาเดียวติดตัว เพราะเชื่อว่า จะช่วยให้การค้าขายดี มีเงินทองไหลเข้ามาตลอดเวลา
7. คู่บ่าวสาวที่แต่งงานกันใหม่ๆ ก็มีความเชื่อว่า กะลาตาเดียว จะทำให้ครองรักกันนิรันดร จึงนำเอากะลาตาเดียวทั้งลูก ที่เป็นตัวผู้และตัวเมียคู่กัน เก็บไว้ในเรือนหอ บางคู่ไม่ต้องการให้อีกฝ่ายหนึ่ง นอกใจไปรักหญิงอื่น ชายอื่น ก็จะแกะสลักชื่อสกุลทั้งของสามีและหรือของภรรยา ลงในแผ่นไม้รักแผ่นเดียวกัน แล้วใส่ลงในกะลาตาเดียว เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายนอกใจ
8. การมี เครื่องรางกะลาตาเดียว ไว้ติดตัวจะช่วยให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ป้องกันโรคภัยต่างๆ ไม่ให้มาเบียดเบียน หรือถ้าเป็นโรคภัยเจ็บป่วย ก็จะช่วยให้หายเร็วขึ้น
9. การใช้เป็นเครื่องมือของหมอโบราณในการตัดต้อที่ตาของคนให้หายขาดได้
เหล่านี้เป็นคุณของกะลาตาเดียว และหากเป็นกะลามหาอุตม์ ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ในลักษณะเดียวกัน และยังถือว่าเป็นกะลาที่ให้คุณเป็นหลายเท่าทบทวีกว่ากะลาตาเดียว เพราะหาได้ยากกว่ามาก ด้วยความศักดิ์ของกะลาตาเดียวและกะลามหาอุตม์ จึงมีเกจิมากมายใช้กะลาตาเดียว และกะลามหาอุตม์ มาทำเป็นเครื่องรางของขลัง ได้แก่
ท่านครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ จ.ลำปาง ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น เทพเจ้าแห่งเครื่องรางของขลัง ของ อาณาจักรล้านนาไทย ท่านครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ เป็นพระคณาจารย์ร่วมสมัยกับ ท่านครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ที่มีผู้ให้ความเคารพศรัทธาเลื่อมใสทั่วแผ่นดินล้านนา ตั้งแต่แรกเริ่มสมัยที่ ท่านครูบาศรีวิชัยต้องอธิกรณ์ (ถูกกล่าวหามีผิดทางพระวินัยสงฆ์) ท่านครูบานันตา ซึ่งเป็นสหธรรมิกก็ได้สร้างกะลาตาดียวแกะรูปพระราหูขึ้น เพื่อใช้อธิษฐานขอให้ท่านครูบาศรีวิชัย พ้นจากความผิดอธิกรณ์ ซึ่งในที่สุดแล้ว ท่านครูบาศรีวิชัยก็ได้พ้นมลทินทุกประเด็น พระราหูกะลาตาเดียว ของท่านครูบานันตา จะสร้างไว้เป็นคู่ๆ คือ มี สุริยัน และ จันทรา โดยเชื่อว่าเครื่องรางนี้จะช่วยให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข การค้าการขายเจริญรุ่งเรือง พบพานแต่สิ่งดี แคล้วคลาดปลอดภัย รอดพ้นจากสิ่งเลวร้าย
หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง ได้สร้างพระราหูอมจันทร์ จากกะลาตาเดียวด้วยวิธีการสืบมาจากหลวงพ่อไตร ซึ่งเป็นการสร้างตามตำรับใบลานจานอักขระขอมลาวที่นำมาจากประเทศลาวโดยตรง การสร้างพระราหูตามสูตรตำรับของลาวของโบราณจะใช้เพียง "กะลาตาเดียว" มาแกะเป็นรูปพระราหูอมจันทร์เพียงอย่างเดียวเท่านั้นในสมัยของหลวงพ่อน้อยก็เช่นกัน โดยเชื่อกันว่า เครื่องรางรูปราหูนี้ก็จะสามารถช่วยเหลือมนุษย์ให้รอดพ้นจากอันตราย และความทุกข์ยากลำบากเหล่านั้นได้
พระพิพิพัฒนาทร (พระอาจารย์สมชาย ฉันทสโร) เจ้าอาวาสวัดปริวาส ได้จัดสร้างสุดยอดของเครื่องราง คือ พยัคฆราชคุ้มดวง-หนุนดวง รุ่น "สร้างบารมี" ขึ้นมา โดยใช้กะลาตาเดียว แกะสลักอย่างประณีตสวยงาม หลวงพ่อสมชาย ได้รับการถ่ายทอดวิชาการสร้างและปลุกเสก "เสือ" จาก หลวงพ่อวงษ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดปริวาสโดยตรง อันเป็นวิชาทางสาย หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย จ.สมุทรปราการ หลวงปู่แดง วัดอ่างศิลา จ.ชลบุรี เจ้าตำรับการสร้าง "เสือ" อันโด่งดังในอดีต ที่วงการนักสะสมเครื่องรางรู้จักกิตติศัพท์กัน
หากจะลองสัมผัสอิทธิฤทธิ์ตามความเชื่อโบราณเหล่านี้ ก็ลองหาซื้อกะลาตาเดียวหรือกะลามหาอุตม์มาไว้ในครอบครองดู ก็ไม่น่าเสียหายอะไร เพราะมีแต่คุณไม่มีโทษ |