ฤกษ์ที่ ๒๗ ดาวเรวดี
ชายผู้หนึ่งพร้อมด้วยลูกชาย ๓ คน ชวนกันไปกู้ไซใหญ่ ที่ดักไว้ในย่านน้ำแห่งหนึ่ง พ่ดดำลงไปกู่ไซก่อน ปลาใหญ่ที่อยู่ในน้ำนั้นก็กินชายพ่อนั้นเสีย บุตรคนใหญ่จึงพูดแก่น้องทั้งสองว่า พ่อเราดำลงไปนานแล้วยังไม่ผุดขึ้นมาเลย จำเราจะต้องลงไปช่วยจึงจะกู้ไซขึ้นมาได้ ว่าแล้วก็โจนลงน้ำดำลงไปตามพ่อ ปลาใหญ่มันก็กินเสียอีก บุตรคนที่สองจึงพูดแก่น้องว่า พ่อเราพี่เรายังไม่ผุดขึ้นมาอีกเล่า ต้องลงไปช่วยอีกคนหนึ่งถึงจะกู้ไซขึ้นได้ ว่าแล้วก็โจนลงน้ำดำลงไป ปลาใหญ่มันก็กินเสียอีก ลูกคนที่สามคอยอยู่นานหนักหนา ก็ไม่เห็นพ่อและพี่ชายทั้งสองกลับขึ้นมา จึงคิดว่าเรานิ่งอยู่อย่างนี้เมื่อไรจะกู้ขึ้นได้ จำจะต้องลงไปช่วยอีกคนหนึ่ง คิดแล้วก็โจนลงน้ำไป ปลาใหญ่ก็กินเสียเหมือนคนทั้งสามนั้น
เรื่องนี้เทพเจ้าปรารถนาจะให้เป็นคติโลก จึงอุปถัมถ์กำเนิดให้เป็นดาวเรวดี มี ๓๖ ดวง เป็นรูปไซและปลาตะเพียนดังนี้
เพื่อให้ประจักษ์แก่ตาโลกว่า พ่อลูกทั้ง ๔ คนนี้ ล้วนเป็นคนโฉดเขลาหาปัญญาพิจารณาเหตุที่เกิดอันตรายมิได้ จึงพากันตายเสียสิ้น
เรื่องนี้เป็นมูลพยากรณ์ว่า หญิงชายผู้ใดเกิดมาเมื่อพระจันทร์เสวยเรวดีฤกษ์ มักเป็นคนโง่หาปัญญามิได้ จะกระทำการสิ่งใดก็มิรู้ผิดและชอบ จะตายด้วยสัตว์ในน้ำทำอันตรายหรือตกน้ำตาย ให้ระวังตัวจงดีแล
|