ฤกษ์ที่ ๙ ดาวอสิเลส

                ดำเนินนิทานว่า มีราชธานีหนึ่ง พระมหากษัตริย์สวรรคตแล้วอำมาตย์ผู้ใหญ่ขึ้นทรงราชย์ พระมเหษีกลัวอำมาตย์ผู้ใหญ่จึงหนีออกไปสู่ป่า มหายักษ์ตนหนึ่งจับมเหษีได้ จึงเลี้ยงไว้ในที่เป็นภรรยา ครั้นนานมาก็เกิดบุตรชายคนหนึ่ง พออายุครบ ๑๓ ปี กีมีปรีชาฉลาดรอบรู้ในกิจการทั้งปวง และมีความปรารถนาที่จะครองราชสมบัติในเมืองมนุษย์ที่มารดาเคยอยู่มาแต่ก่อนนั้น จึงรวบรวมได้รี้พลยักษ์ ๘๐๐๐ ก็ยกมาตั้งล้อมพระนคร ณ เบื้องตะวันออก และใช้ม้าให้เป็นทูตนำหนังสือเข้าไปให้อำมาตย์ผู้ใหญ่ในพระนคร อำมาตย์ผู้ใหญ่รู้ว่ายักษ์ราชกุมารเป็นโอรสของพระมเหษี ก็ออกมาอ่อนน้อมยอมถวายราชสมบัติแด่ยักษ์ราชกุมาร ๆ ก็ขึ้นทรงราชย์ และตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรมเป็นอันดี จนถึงกาลชราทุพพลภาพก็หามีราชโอรสที่จะสืบสันติวงศ์ไม่ ข่าวนี้ทราบไปถึงพระนครใกล้เคียงกันก็ยกกองทัพมาล้อมพระนครของยักษ์ราชกุมาร ยักษ์ราชกุมารมิได้สั่งให้ผู้ใดออกสู้รบ เกรงจะฆ่ากันตายเป็นกรรมเวรไปภาคหน้า การรบเป็นแต่ทหารอาสาออกสู้รบเองก็ปราชัยมาทุกครั้ง จนถึงเสียพระนคร และยักษ์ราชกุมารนั้นก็ถูกศัตรูจับประหารชีวิตเสีย

            เทวดาผู้เป็นใหญ่ปรารถนาจะให้เป็นคติโลก จึงอุปการกำเนิดให้เป็นดาวอสิเลส เป็นรูปแขนคู้ ๕ ดวงดังนี้

            เพื่อให้ประจักษ์แก่ตาโลกว่า ยักษ์ราชกุมารนั้นตั้งอยู่ในศีลธรรมประกอบด้วยเมตตาคุณยิ่งนัก มีราชศัตรูยกกองทัพมาล้อมพระนครแล้ว ก็มิได้เหยียดแขนออกชี้บังคับให้ผู้ใดออกสู้รบ ดูประหนึ่งว่าคู้แขนนิ่งเสีย จนตัวเองก็ถูกประหารชีวิต