ฤกษ์ที่ ๖ ดาวอัทระ
ดำเนินนิทานว่า มีผัวเมียคู่หนึ่งอยู่ด้วยกัน เมียนั้นมรครรภ์แก่จวนจะคลอดอยู่แล้วก็เกิดวิวาทกันขึ้น เมียนั้นจึงหนีผัวไปหาพ่อแม่ของตน เมื่อเดินไปกลางทางเป็นชนบทราวป่าก็คลอดลูกเป็นชาย จึงทิ้งลูกไว้ใต้ต้นไม้ ตัวก็เดินทางต่อไป รุกขเทวดามีความสงสารเด็กนั้นจึงได้เลี้ยงไว้ ครั้นเด็กนั้นใหญ่ขึ้นก็ไปสู่ศาลาแห่งหนึ่งเล่นอยู่กับเด็กทั้งหลาย ชาวบ้านเห็นเด็กแปลกประหลาดมาจึงถามว่าเป็นลูกผู้ใด เด็กนั้นบอกว่าเป็นลูกเทวดา ความนี้ก็เล่าลือกันต่อๆไป จนทราบถึงพระมหากษัตริย์แห่งพระนครนั้น จึงทรงใช้ให้ราชบริพารมารับเด็กนั้นมาเลี้ยงไว้ คนทั้งหลายมีความนับถือเด็กนี้มาก จึงได้นำเงินทองเครื่องใช้สอยไปให้แก่เด็กนั้นเป็นอันมาก เมื่อเด็กนั้นโตแล้วจึงได้รวบรวมทรัพย์สมบัติที่มีไปมอบให้แก่อาจารย์ผู้ทรงไตรเพท ขอเรียนวิชาการทั้งปวง เมื่อเรียนสำเร็จแล้ว จึงกลับมาสำแดงวิชาการนั้นถวายพระมหากษัตริย์ๆ ก็ทรงพระปราโมทย์โปรดให้เป็นที่ราชปุโรหิตาจารย์ๆ ก็ได้รับราชการอยู่จนสิ้นอายุ
เรื่องนี้เทวดาผู้เป็นใหญ่ประสงค์จะให้เป็นคติโลก จึงนำกำเนิดให้เกิดเป็นดาวฤกษ์ ชื่อ อัทระ ดวงเดียวดังนี้
เพื่อแสดงว่าเด็กน้อยอันหาญาติมิได้ ได้ที่พึ่งอันประเสริฐ ก็ประดุจเสวตฉัตรกางกั้น บันดาลให้ประกอบด้วยศิลปวิชาการอันเลิศเป็นที่นับถือแห่งคนทั้งหลาย
ตำนานนี้เป็นมูลพยากรณ์ว่า หญิงชายผู้ใดเกิดมาเมื่อพระจันทร์เสวยอัทระฤกษ์ ย่อมพลัดพรากจากพ่อแม่แต่น้อย แต่จะได้ที่พึ่งอันดีมีศิลปวิชาการมากแล
|